วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เกาะเกร็ด

เพื่อนๆ คนไหนชอบ "เกาะ" ยกมือขึ้น... เอิ๊กๆ ไม่ใช่ค่ะ ต้องพูดว่า "เพื่อนๆ คนไหนชอบเที่ยวเกาะยกมือขึ้น" เพราะว่าวันนี้เราอยู่ที่นนทบุรีค่ะ จะขอเอาใจคนชอบ "เที่ยวเกาะ" พาไปเที่ยว "เกาะเกร็ด" เกาะกลางลำน้ำเจ้าพระยาค่ะ เพื่อนๆ รู้หรือเปล่าค่ะว่า... ภาคกลางของประเทศไทยเราก็มี "เกาะ" เหมือนกันนะคะ วันนี้เราจะไปเที่ยวเกาะเกร็ด ไหว้พระ นั่งเรือ ขี่จักรยานรอบเกาะกันค่ะ วันเปิดทำการ: วันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 




วิธีการเที่ยวเกาะเกร็ด
1.       เดินเที่ยว เกาะเกร็ดเป็นเกาะเล็กๆ สถานที่ท่องเที่ยวก็ตั้งติดๆ กัน สามารถเดินไปตามทางได้เรื่อย แดดไม่ร้อนมากค่ะ ลมแม่น้ำก็พัดเย็นสบาย ถ้าเหนื่อยก็แวะพักซื้อขนม หรือแวะนั่งร้านอาหารริมน้ำ สถานที่แต่ละแห่งก็อยู่ใกล้ๆ กัน ระยะเดินถึงค่ะ แต่อย่าคิดจะเดินรอบเกาะนะคะ หลายกิโลอยู่

2.       ปั่นจักรยานรอบเกาะ ค่าเช่าจักรยานคันละ 40 บาท มีให้เช่า 2 จุดคือ ท่าเรือวัดปรมัยยิกาวาส และเท่าเรือวันป่าฝ้าย ขาไปปั่นสบายลมเย็น ขากลับปั่นจะเอียงเพราะตะกร้าจักรยานเต็มไปด้วยขนมและของกิน แต่สนุกมากค่ะ ได้เที่ยวแล้วก็ได้ออกกำลังกายไปในตัว พอปั่นช่วงคนคึกคักอาจจะต้องมีลงมาจูงจักรยานบ้างนะคะ

3.     นั่งเรือรอบเกาะ - มีเรือข้ามฟากที่วัดสนามเหนือ ข้ามมาที่ท่าน้ำวัดปรมัยยิกาวาส หากจะนั่งเรือรอบเกาะ มีเรือหางยาว นั่งได้ประมาณ 8 คน เหมาลำลำละ 500 บาท แต่แวะคลองขนมหวาน ราคา 700 บาท เรือเล็กเช่าจากปากเกร็ด เข้าคลองขนมหวาน ราคา 150 – 200 บาท

ก่อนจะไปเที่ยวเกาะเกร็ดกัน ขอเล่าถึงเรื่องราวและประวัติความเป็นมาของเกาะเกร็ด กันก่อนนะคะ 
        เกาะเกร็ด เป็นหมู่บ้าน OTOP ต้นแบบภาคกลาง (Knowledge-based Village Cluster) เป็นแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น และเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ในด้านการผลิตสินค้าหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผาที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวไทยมอญที่ได้สืบทอดกันมายาวนาน และการทำขนมมงคล
       เกาะเกร็ด เกิดขึ้นจากการขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงส่วนที่เป็นแหลม ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระแห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ. 2265 เรียกว่า คลองลัดเกาะเกร็ดน้อย” (คลองลัดเกาะเกร็ดใหญ่อยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ขุดลัดแม่น้ำเจ้าพระยาตอนท้ายอำเภอสามโคกมาทางใต้ถึงคลองขวางเชียงราก) ต่อมากระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางแรงขึ้นเซาะตลิ่งทำให้คลองขยาย แผ่นดินตรงแหลมจึ่งเกลายเป็นเกาะ มีชื่อเดิมว่า เกาะศาลากุน

        เกาะเกร็ดมีความเจริญมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สังเกตได้จากวัดวาอารามต่างๆ บนเกาะส่วนใหญ่จะเป็นศิลปะในสมัยอยุธยา แต่คงจะมาร้างคนเมื่อพม่ามายึดกรุงศรีอยุธยา หลังจากกอบกู้เอกราชได้ พระเจ้าตากสินมหาราชจึงโปรดให้ชาวมอญเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่นี่ ชาวมอญบนเกาะเกร็ดนั้นมีทั้งที่เข้ามาในสมัยกรุงธนบุรี และสมัยรัชกาลที่ 2 ต่อมาเมื่อตั้งอำเภอปากเกร็ดขึ้นแล้ว เกาะศาลากุน จึงมีฐานะเป็นตำบล และเรียกกันว่าตำบลเกาะเกร็ด เกาะนี้จึงมีชื่อเรียกกันเป็น เกาะเกร็ด





       เกาะเกร็ดมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอาราม เริ่มกันที่วัดซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของเกาะเกร็ดไปแล้ว นั่นคือ "วัดปรมัยยิกาวาส" (วัดปากอ่าว) ในวัดนี้มีสิ่งที่น่าชมอยู่หลายอย่าง ที่ท่าเรือหน้าวัดจะพบปราสาทไม้ห้ายอด ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งเหม (โลงศพมอญ) ของอดีตเจ้าอาวาส ตั้งตระหง่านอยู่ ส่วนพระอุโบสถมีการตกแต่งด้วยวัสดุนำเข้าจากอิตาลี ศิลปะยุโรปแบบพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 5 แต่กระนั้นพระองค์ยังรักษาธรรมเนียมเดิม โดยรับสั่งให้ที่นี่ริเริ่มการสวดเป็นภาษามอญ และปัจจุบัน ที่นี่เป็นวัดเดียวที่ยังเก็บรักษาพระไตรปิฏกภาษามอญไว้ พระประธานในพระอุโบสถนั้นเป็นพระปางมารวิชัย ฝีพระหัตถ์ของพระองค์เจ้าประดิษฐานวรการ ผู้ที่สร้างพระสยามเทวาธิราช รัชกาลที่ 5 ทรงยกย่องว่าพระประธานองค์นี้งามด้วยฝีพระพักตร์ดูมีชีวิตชีวาเหมือนคนจริง ด้านหลังพระอุโบสถ มีพระมหารามัญเจดีย์ จำลองแบบมาจากเจดีย์ชเวดากองของพม่า


          พระวิหาร ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์สมัยอยุธยาตอนปลาย ขนาดยาว 9.50 เมตร ภาพจิตรกรรมที่เพดานนั้นแปลกตากว่าที่อื่น เป็นภาพลายปฐมจุลจอมเกล้า หน้าพระวิหารประดับตราพระเกี้ยว เป็นตราประจำพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้านหลังพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปประจำจังหวัดนนทบุรี


          พระนนทมุนินท์ เป็นพระพุทธรูปสมัยอยุธยาตอนปลาย ปางขัดสมาธิเพชร ประดิษฐานอยู่ในบุษบกแบบมอญ (จองพารา) สลักโดยฝีมือช่างที่นี่ ที่มุขเด็จหน้าวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อน ซึ่ง ซาง ซิว ซูน ชาวพม่าถวายให้กับรัชกาลที่ 5 พระวิหารเปิดทุกวันตั้งแต่ 9.00 - 16.00 น.
         เอกลักษณ์ของมอญอีกอย่างหนึ่งในวัดนี้ก็คือ เจดีย์ทรงรามัญที่จำลองแบบมาจากพระธาตุเจดีย์มุเตา เมืองหงสาวดี ซึ่งคนมอญนับถือมาก ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เนื่องจากเจดีย์อยู่ติดแม่น้ำ กระแสน้ำกัดเซาะฐานราก ทำให้เจดีย์มีลักษณะเอียง ดูแปลกตา นับเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเกาะเกร็ด

          ส่วนที่ "พิพิธภัณฑ์วัดปรมัยยิกาวาสและหอไทยนิทัศน์เครื่องปั้นดินเผา" จะจัดแสดงวัตถุต่างๆ ที่ล้วนน่าชม เช่น พระพิมพ์ เครื่องแก้ว เครื่องถ้วยชาม รวมทั้ง "เหม" ที่ พ.อ. ชาติวัฒน์ งามนิยม บรรจงสร้างขึ้น จนนับว่าเป็นงานศิลป์ชิ้นเยี่ยมชิ้นหนึ่งเลยทีเดียว นับตั้งแต่การออกแบบโครงสร้าง การต่อลาย การตอกไข่ปลาเพื่อต่อลายบนกระดาษอลูมิเนียม ทุกชิ้นส่วนที่นำมาประกอบเป็นเหมนี้ ล้วนแต่ต้องทำอย่างละเอียด ประณีต เชื่อว่าชาวมอญคงดัดแปลงลักษณะของเหมมาจากโลงของพระพุทธเจ้า ซึ่งก้นสอบปากบานข้างแคบเช่นกัน (ในพิพิธภัณฑ์แสดงภาพไว้) โลงเหมใช้กับศพแห้ง เหมพระ จะมีลักษณะพิเศษกว่าตรงที่เจาะหน้าต่างมองเห็นศพด้านในได้ ทั้งนี้ ในวันจันทร์ ศุกร์ เปิดเวลา 13.00 - 16.00 น. วันเสาร์ อาทิตย์ เปิดเวลา 9.00 - 16.30 น.








          "วัดเสาธงทอง" เป็นวัดเก่า เดิมชื่อ "วัดสวนหมาก" นอกจากเป็นที่ตั้งโรงเรียนประถมแห่งแรกของอำเภอปากเกร็ดแล้ว ด้านหลังโบสถ์ยังประดิษฐานเจดีย์ที่สูงที่สุดของอำเภอปากเกร็ดด้วย พระเจดีย์เป็นศิลปะอยุธยาย่อมุมไม้สิบสอง มีเจดีย์องค์เล็กเป็นบริวารโดยรอบอีก 2 ชั้น ส่วนด้านข้างโบสถ์มีเจดีย์องค์ใหญ่อีก 2 องค์ องค์หนึ่งเป็นเจดีย์ทรงระฆังหรือทรงลังกา อีกองค์หนึ่งเป็นเจดีย์ทรงมะเฟือง ภายในโบสถ์มีลายเพดานสวยงามมาก เขียนลายทองกรวยเชิงอย่างงดงาม พระประธานเป็นพระปางมารวิชัยปูนปั้นขนาดใหญ่ คนมอญเรียกวัดนี้ว่า เพี๊ยะอาล๊าตหน้าโบสถ์มีเจดีย์ขนาดย่อมสององค์ รูปทรงคล้ายมะเฟือง ฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมสิบสอง ประดับลายปูนปั้น     



          "วัดไผ่ล้อม" สร้างสมัยอยุธยาตอนปลาย มีโบสถ์ที่งดงามมาก ลายหน้าบันจำหลักไม้เป็นลายดอกไม้ มีคันทวยและบัวหัวเสาที่งดงามเช่นกัน คนมอญเรียกวัดนี้ว่า "เพี๊ยะโต้"

          "วัดฉิมพลีสุทธาวาส" มีโบสถ์ขนาดเล็กงดงามมาก และยังมีสภาพสมบูรณ์แบบดั้งเดิม หน้าบันจำหลักไม้เป็นรูปเทพทรงราชรถ ล้อมรอบด้วยลายดอกไม้ ซุ้มประตูเป็นทรงมณฑป ซุ้มหน้าต่างแบบหน้านาง ยังคงเห็นความงามอยู่ และฐานโบสถ์โค้งแบบเรือสำเภา     

          "กวานอาม่าน" พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา เป็นศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านชาวมอญ จัดแสดงเครื่องปั้นดินเผามอญลายโบราณ การปั้นเครื่องปั้นดินเผานั้นเป็นอาชีพชาวมอญมาตั้งแต่ครั้งตั้งถิ่นฐานแถบลุ่มแม่น้ำอิรวดี และมีมาตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี นับเป็นหัตถกรรมพื้นบ้านที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดนนทบุรี ลวดลายประณีตสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และยังเป็นสัญลักษณ์ตราประจำจังหวัดนนทบุรี สองข้างทางเดินบนเกาะมีบางบ้านที่ทำเครื่องปั้นดินเผา ภาชนะของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น กระถาง ครก โอ่งน้ำ ฯลฯ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 09.00 – 17.00 น. ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.0-2584-5086   

          ร้านเครื่องปั้นดินเผาเล็กๆ น่ารัก ราคาถูก ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา และเครื่องปั้น ทางศิลปะแขนงต่างๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ บนเกาะเกร็ดยังมีกิจกรรมให้ทำกันอีกเยอะแยะ ไม่ว่าจะเป็นการปั่นจักรยานรอบเกาะ อย่าพลาดจอดแวะลงเดินเลือกซื้อของฝากจำพวกเครื่องปั้นดินเผา และแวะชิมขนมไทย ทอดมันหน่อกะลา ข้าวแช่ กะละแม อาหารของชาวมอญ ที่สืบทอดสูตรกันมายาวนาน รับประทานพร้อมเครื่องเคียงครบรสที่มีให้เลือกเพียบ คือ ลูกกะปิทอด, หมูกับปลาเค็มปั้นทอด, ไชโป๊หวาน, ปลาหวาน, พริกหยวกสอดไส้, หัวหอมทอดสอดไส้ และผักชนิดต่างๆ แล้วไปปิดท้ายด้วยการนั่งเรือกินลมชมทัศนียภาพรอบเกาะเกร็ดกันก็ได้นะคะ  






การเดินทางมาเกาะเกร็ด

1.       รถยนต์  ให้ขับมาทางห้าแยกปากเกร็ด พอผ่านไฟแดง 4 แยกปากเกร็ดแล้ว ให้เลี้ยวซ้ายแรก ก่อนถึงโรงหนังเมเจอร์ฮอลลีวูด ไปตามถนนภูมิเวท ตรงไปจนเกือบสุดทาง เลี้ยวขวา จอดรถ 2 ที่ คือในวัดสนามเหนือ (ค่าจอดรถคันละ 30 บาท) นั่งเรือข้ามฟากจะไปขึ้นเกาะตรงวัดปรมัยยิกาวาส จากตรงนี้สามารถเดินเที่ยวได้เลย เป็นจุดคึกคักมีของขาย หรือจะไปจอดที่วัดกลางเกร็ด ก็ได้ (ค่าจอดรถบางทีก็เก็บบางทีก็ไม่เก็บ) นั่งเรือข้ามฟากไปขั้นเกาะที่วัดป่าฝ้าย จากจุดนี้จะเดินเท้า หรือเช่าจักรยานวนรอบเกาะก็ได้ค่ะ ค่าเรือข้ามฟาก คนละ 2 บาทเท่านั้น เรือลำใหญ่พอสมควร
2.       ทางเรือ  ขึ้นเรือด่วนเจ้าพระยาออกจากท่าวัดราชสิงขร ลงที่ท่าน้ำจังหวัดนนทบุรี ค่าโดยสารคนละ 20 บาท จากนั้นเช่าเหมาเรือหางยาวที่ท่าน้ำนนทบุรีไปที่เกาะเกร็ด หรือนั่งรถประจำทางจากท่าน้ำนนฯ ไปปากเกร็ดแล้วลงเรือที่วัดสนามเหนือ หรือวัดกลางเกร็ด



ที่พัก : นนทบุรี



       เรามีที่พักมากมายมาให้เพื่อนๆ ได้เลือกพักด้วยนะคะ หากเพื่อนๆ ยังต้องการเที่ยวกันต่อ ต้องการพักค้างคืน เราก็มีที่พักมาให้เพื่อนๆ ได้เลือกสรร พร้อมทั้งโปรโมชั่นของที่พัก แต่ละแห่งมาให้เพื่อนๆ ได้เลือกพัก เลือกจองกันค่ะ  ตามลิงค์ด้านล่างนี้นะคะ


ที่พักนนทบุรี ราคาประหยัด



  ขอให้เพื่อนๆ สนุกกับการมาเที่ยวครั้งนี้ค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น